และจนถึงราชวงศ์ชิง เทคนิคการสานพัดของจีนยิ่งพัฒนา
ใช้วัตถุล้ำค่าในการสานพัด เช่น งาช้าง กระดองเต่า และไม้แดง เป็นต้น
พัดจีนทำจากไม้หอมที่เรียกว่า sandalwood
มีการแกะสลักไม้พัดอย่างละเอียดประณีต
ส่วนที่จับของพัด ก็มีรูปแกะสลักต่างๆนานา เช่น
แบบหรูอี้ แบบขิม แบบนก แบบหัวปลาทอง แบบแห้ว แบบสมอ เป็นต้น
จากนั้นประมาณคริสต์ศตวรรษที่ ๖ จีนเผยแพร่พัดผ้าไหมนี้ให้ญี่ปุ่น
และญี่ปุ่นได้นำไปดัดแปลงเป็นพัดแบบพับได้อย่างชาญฉลาด
พัดทำจากผ้าไหม
พัดพับของญี่ปุ่นทำจากผ้าไหมยึดติดบนซี่ไม้ไผ่ที่วางเรียงซ้อนกัน
พัดพับที่ใช้ผ้า สีหรือแบบต่างกัน จะมีชื่อเรียกและการใช้งานต่างกัน
เช่น พัดสำหรับผู้หญิง มีพัด 'เต้นรำ' 'ออกงานสังคม' และ 'เวลาน้ำชา'
ส่วนผู้ชายมีพัด 'ขี่ม้า' และ 'รบ' เป็นต้น
ต่อมาญี่ปุ่นเผยแพร่พัดพับคืนแก่จีนบ้างในศตวรรษที่ ๑๐
คราวนี้จีนจึงเป็นฝ่ายประยุกต์พัด
จากพัดพับที่ใช้ผ้าไหมและซี่ไม้ไผ่
มาเป็นพัดพับที่ใช้แถบไม้ไผ่หรืองาช้างแทน
โดยใช้แถบไม้ไผ่หรืองาช้างวางเรียงช้อนกัน เจาะรูที่ปลายด้านหนึ่ง
และร้อยติดกันด้วยแถบผ้าใช้งานได้เช่นเดียวกับพัดพับของญี่ปุ่น
credit by arunsawat.
หน้าที่เข้าชม | 190,436 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 107,605 ครั้ง |
เปิดร้าน | 20 เม.ย. 2555 |
ร้านค้าอัพเดท | 7 ก.ย. 2568 |